โรคแพ้ภูมิตัวเอง, โรคลูปัส (lupus) หรือโรคพุ่มพวง (เนื่องจากเป็นโรคที่ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงของไทยได้ป่วยและเสียชีวิตลงด้วยโรคนี้ (Systemic Lupus Erythematosus: SLE) โรคแพ้ภูมิตัวเองจึงเป็นที่รู้จักและถูกเรียกต่อกันมาว่า โรคพุ่มพวง)
รวมไปถึงผู้ป่วยที่เป็นโรครูมาตอยด์ ก็ถือเป็นกลุ่มโรคเดียวกัน
SLE คืออะไร? และเป็นอย่างไร?
เป็นภาวะภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ดีของร่างกาย โดยภูมิคุ้มกันจะต่อต้านและทำลายเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย
ทำให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรัง อาการของโรคจะเป็นๆหายๆ กําเริบและสงบเป็นระยะๆ มีผื่นแดงตามใบหน้าตาแห้ง ตัวบวม ขาบวม ปวดหัว ปวดบวมตามข้อต่อและกระดูก ผมร่วง เป็นต้น พบได้บ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
อาการเป็นอย่างไร?
อาการส่วนใหญ่ที่พบของโรคพุ่มพวง คือ
รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแรงมีไข้ ปวดหัว ตาแห้ง ตาบวมมีผื่นแดงขึ้นตามใบหน้า ปากเป็นแผล ผมร่วงนิ้วมือ นิ้วเท้าซีด ผิวไวต่อแสงแดด หายใจช่วงสั้น ๆ เจ็บหน้าอกเมื่อหายใจเข้าลึกๆ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือปวดบวมตามข้อ ขาบวม รู้สึกมึนงง สูญเสียความทรงจำ
เกิดขึ้นได้อย่างไร? ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค?
สาเหตุการเกิดที่แท้จริงนั้นไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน พันธุกรรมอาจเป็นส่วนหนึ่ง รวมไปถึงพฤติกรรมอันได้แก่ การได้รับสารสเตียรอยด์ที่มากเกินไปของร่างกาย อาจเนื่องจากอาหารการกิน หรือครีมประทินผิวต่างๆ เป็นต้น
ปัจจัยที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ได้แก่
พันธุกรรม การถ่ายทอดทางพันธุกรรมอาจส่งต่อลักษณะบางอย่างที่ทำให้มีโอกาสเป็นโรคได้การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของเพศหญิงในช่วงตั้งครรภ์ หรือช่วงวัยที่กำลังเจริญเติบโต
การติดเชื้อ การได้รับเชื้อต่าง ๆ อย่างไวรัสบางชนิดการใช้ยา ยาบางประเภท เช่น ยาต้านอาการชัก ยาปฏิชีวนะ และยากลุ่มควบคุมความดันโลหิต
การได้รับสาร เช่น สารเคมี การสูบบุหรี่ และยาสูบต่าง ๆ
แสงแดด สำหรับคนที่มีผิวไวต่อแดด การสัมผัสแสงแดดอาจทำให้เกิดรอยโรค เป็นเหตุให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา
SLE : โรคแพ้ภูมิตนเองชนิดที่มักพบบ่อย และเป็นชนิดที่คุณพุ่มพวงป่วยและเสียชีวิต ภูมิคุ้มกันจะทำลายเนื้อเยื่ออวัยวะที่สมบูรณ์ ทำให้เกิดอาการและความเจ็บป่วย เช่น ผื่นแดงทางผิวหนัง ข้ออักเสบ สมองและระบบประสาทได้รับความเสียหาย อาจเกิดอาการทางประสาทอย่างเห็นภาพหลอนร่วมด้วย รวมถึงข้อต่อ ไต และอวัยวะอื่น ๆ
ภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติจะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยจนอาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะและระบบต่าง ๆ ภายใน ได้แก่
เลือด อาจเกิดภาวะโลหิตจาง เสี่ยงต่อการเสียเลือด การเกิดลิ่มเลือดอุดตัน และการติดเชื้อในกระแสเลือด
ปอด อาจเกิดเยื่อหุ้มปอดอักเสบที่สร้างความเจ็บปวดในขณะหายใจ และเสี่ยงต่อปอดอักเสบได้
ไต อาจเกิดความเสียหายจากการอักเสบภายใน หรืออาจเกิดภาวะไตวายที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
หัวใจ อาจเกิดการอักเสบที่กล้ามเนื้อหัวใจ หลอดเลือดแดง และเยื่อหุ้มหัวใจ เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
สมองและระบบประสาทส่วนกลาง อาจเกิดอาการที่มีความรุนแรงน้อยไปจนรุนแรงมาก ตั้งแต่ปวดหัว เวียนหัว มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป มีปัญหาด้านความจำ ประสาทหลอน เป็นโรคหลอดเลือดสมอง ตลอดจนเกิดภาวะชัก
นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคพุ่มพวงยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอวัยวะและระบบต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันเอง และจากการรักษาโรคที่ต้องรับประทานยาลดการทำงานของภูมิคุ้มกันลง เสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกตายจากการขาดเลือด รวมถึงเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ภาวะครรภ์เป็นพิษ และการแท้งลูกในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์
SLE ดูแลได้?
ดูแลได้ด้วยการ ปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล
นวัตกรรมจากพืช ธัญพืชและผลไม้ 5 ชนิดเสริมฤทธิ์การในการปรับระดับภูมิคุ้มกันให้อยู่ในภาวะที่สมดุล
จากปัญหาเม็ดเลือดขาวหลั่งสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบคือ IL-1β, TNF-α, IL-6 และ IL-17 มากเกินไป
คณะนักวิจัย Operation BIM ได้วิจัยและพัฒนาสารเสริมประสิทธิภาพจากสารมังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก จนได้แคปซูลเสริมอาหารที่พิสูจน์โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ แล้วว่าสามารถลดการหลั่งสาร TNF-α, IL-6 และ IL-17 ด้วยประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้สารสกัดทั้ง 5 ชนิดที่ผสมอยู่ในแคปซูลที่สามารถลดอาการอักเสบได้แล้ว ยังสามารถเสริมสร้างคอลลาเจน และกระดูกอ่อนเมื่อมีการใช้ต่อเนื่องอีกด้วย