มะเร็งเต้านม, มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งตับ, มะเร็งปอด, มะเร็งลําไส้ใหญ่
"มะเร็ง" 5 อันดับแรกที่พบในผู้ชาย
- มะเร็งตับและท่อน้ําดี, มะเร็งปอด, มะเร็งลําไส้ใหญ่และทวารหนัก, มะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งต่อมน้ําเหลือง
วิธีดูอาการเป็นมะเร็ง 14 ชนิด
วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิด ต่างๆ อาการของ การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ของ ร่างกาย
1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้งๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดีอนปกติ มีอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศ สัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจทําแป๊ปสเมียร์โดยเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะได้รู้
2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง
3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจําเดือนมาไม่สม่ําเสมอ หรือมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลําไส้อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย น้ำหนักลด และมีอาการปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการ เหนื่อยง่าย และมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดําเขียวหรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ และมักจะเกิดร่วมกับอาการปวดตามข้อต่างๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืด และเมื่อคลําดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อยๆ มีเลือดออก และมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอก และหายใจลําบากหรืออาจมีอาการหอบปน อยู่ด้วยทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ําหนักลด ตา และผิวเป็นสีออกเหลือง และเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด ฝ่ามือมีสีแดงบริเวณโคนฝ่ามือด้านนิ้วก้อยถ้าอาการหนัก ใต้ลูกกระเดือกมีพื้นเรียบๆ รูปดอกกุหลาบ มีกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นกํามะถัน
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนานๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น อาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียวๆ แดงๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรงหรือการเป็นลมโดยกะทันหัน อวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทํางานเช่น มีอาการชา และเป็นอัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มี อาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือที่ลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับ การรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจําหรือ เป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลําคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันที่ทําให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลําบากหรือมีการขยายตัวของต่อมในลําคอที่โตขึ้นจน สามารถจับและรู้สึกได้
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยบ่อยรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตือแม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คํา
12. มะเร็งทรวงอก อาการ มีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมา จากหัวนม บวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อน บวมจนจับได้เมื่อคลําบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมี ตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวัง เพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทําให้เกิด เป็นถุงน้ําใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่
13. มะเร็งลําไส้ อาการ น้ําหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้อง อย่างมาก และระบบการย่อยผิดปกติมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ*ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิชชู่ซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั้นคือ อาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมี สีดําคล้ำนั่น คืออาการของโรคมะเร็งในลําไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการ มีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย มะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา ( Melanoma) คือ เนื้อ งอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝ ถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติ
"มะเร็ง" คณะนักวิจัย OperationBIM (APCO Capsule) (งานวิจัยของ APCO) กับการดูแลปัญหาสุขภาพ "มะเร็ง"
ภูมิสมดุลBIM100 คืออะไร?
Operation BIM คือผลงานวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์ไทยจากศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทยที่ได้รับความร่วมมือจากม หาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นําโดยศาสตราจารย์ ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ซึ่งได้ทําการวิจัยสารธรรมชาติ GM-1 ในมังคุดอย่างจริงจัง และต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งได้รวมสารสกัดจากผลไม้ และธัญพืชของไทยที่มีประโยชน์ทางโภชนาการสูง 5 ชนิดไว้ด้วยกัน
- ได้แก่ มังคุด ฝรั่ง งาดํา ถั่วเหลือง และใบบัวบก โดยสกัดเอาแต่เฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์แล้วผสมเข้ากันในลักษณะเสริมฤทธิ์ให้สารสกัดเด่น GM-1 ในผลมังคุดให้สามารถดูแลโรคผ่านภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ซึ่งคือการดูแลภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทํางานได้อย่างเป็นปกติที่สุด) จนได้ผลิตภัณฑ์ซึ่งเห็นผลชัดเจนกว่า 90% ในการเพิ่มและปรับสมดุลภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงอยู่ในระดับพอเหมาะที่ภูมิคุ้มกันแข็งแรง และสมดุลอยู่ตลอดเวลา ทําให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงโดยไม่มีสารตกค้าง ผลิตภัณฑ์ทุกตัวมี อย. รับรองและได้มาตรฐานที่สามารถส่งออกไปจําหน่ายได้ในตลาดโลก
ผลงานวิจัย BIM100 มีผลต่อการดูแลโรคผ่านการปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล 2 กรณีดังนี้
กรณีที่ 1 - โรคที่เกิดจากการแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ที่ภูมิคุ้มกันมีการทํางานผิดปกติโดยมีการหลั่งสารภูมิคุ้มกันบางอย่างเช่น Th1, Th2, และ Th17 ในปริมาณที่มากเกินไปจนภูมิคุ้มกันหันมาทําร้ายตัวเอง หรือที่เรียกว่า "แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง" ในกรณีนี้ Operation BIM จะปรับลดการหลังค่า Th ต่างๆ ให้ลดลงมาหลังอยู่ในระดับสมดุลย์ได้ ทําให้ภูมิคุ้มกันกลับมาทํางานได้อย่างเป็นปกติและไม่หันไปทําร้ายอวัยวะใดๆ ของตัวเองเพิ่ม จึงทําให้อาการ "แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง" ลดลงและหายเป็นปกติได้ เช่น ข้อเสื่อม รูมาตอรย์ SLE
กรณีที่ 2 - โรคที่เกิดจากสุขภาพร่างกายอ่อนแอ เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ลดเหลืออยู่น้อยมากๆ อาจเพราะได้รับสารตกค้างในอาหารสะสมเป็นเวลานาน สารพิษจากควันรถ ควันบุหรี่ มลภาวะต่างๆ ในอากาศ หรืออะไรหลายๆ อย่างประกอบกัน กรณีนี้ร่างกายจะติดเชื้อได้ง่ายจนเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้น เพราะร่างกายเหลือภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เซลล์มะเร็ง หรือเซลล์ร้ายอื่นๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย กรณีนี้ Operation BIM สามารถกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันเกิดการสร้าง Th1, Th2, และ Th17 ให้เพิ่มกลับมามีจํานวนมากอยู่ในระพอเหมาะที่ภูมิคุ้มกันแข็งแรง และสมดุล
เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยให้ร่างกายสามารถจัดการกับโรคต่างๆ ได้เองตามธรรมชาติของร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และสมดุล
ผลงานวิจัย BIM100 ไม่ใช่ยาจึงไม่มีผลข้างเคียงต่อตับ และใตในระยะยาว และไม่ได้มีผลโดยตรงในการรักษาโรค แต่ ผลงานวิจัย BIM100 เป็นวิธีการบําบัดโรคแนวใหม่โดยอาศัยหลักการเสริมสร้าง และปรับสมดุลภูมิคุ้มกันในร่างกายให้อยู่ในระดับพอเหมาะที่แข็งแรงและสมดุลอยู่ตลอดเวลา คือไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ทําให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้วร่างกายก็สามารถดูแล และจัดการกับสิ่งแปลกปลอม หรืออาการผิดปกติจนเกิดการเจ็บป่วยต่างๆ ให้หายไปได้เองตามธรรมชาติของร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับพอเหมาะที่แข็งแรง
-สามารถดูแลภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายโดยตรง เซลล์มะเร็งไม่สามารถขวางกั้นได้
-มีกลไกในการจัดการกับเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการสังเคราะห์ของเยื้อหุ้มเซลล์มะเร็งทําให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอ
-GM1 ในมังคุดฆ่าเซลล์มะเร็งได้
-น้ำมังคุดBIM มีพฤกษเคมีที่สําคัญชื่อว่า "โพลีแซคคาไรด์" (Polysaccharide)นําส่งไปยังเซลล์ หลอดเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อ เซลล์ คุ้มกันตัวอื่นๆ จะช่วยกระตุ้นวงจรการทํางานของระบบภูมิคุ้มกัน ในร่างกาย เพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพของเซลล์คุ้มกันธรรมชาติ ให้ทําหน้าที่ทําลายเซลล์แปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย รวมถึงไวรัสและแบคทีเรียอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-น้ำมังคุดBIM มี "อัลฟาไฮดรอกซินเอซิก" สามารถไปจับกับธาตุเหล็กที่มะเร็งใช้ในการเจริญเติบโต มะเร็งจะตาย ผลงานวิจัย BIM100ฆ่ามะเร็ง และป้องกันเซลล์ใหม่ให้เป็นเซลล์ดีด้วย ปกป้องได้แม้เเต่เซลล์เล็ก ที่หลงไปเป็นมะเร็ง เครื่องมือทางการแพทย์ต้องรอให้มะเร็งมีประมาณระดับหนึ่งจึงจะตรวจพบ ซึ่งก็เป็นระยะที่เริ่มรุนแรง หรืออาจจะรุนแรงจนแก้ไม่ทันแล้ว
ผลงานวิจัย BIM100 กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวเพชรฆาต ที่สามารถกัดกินเซลล์มะเร็งทั่วทั้งร่างกายได้จากผลการทดลองทั้งกับสัตว์ และกับคน จนเป็นที่แน่ใจแล้วว่าสามารถกระตุ้นร่างกายให้มีภูมิคุ้มกันที่สมดุล และกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งผิดปกติทั้งจากภายนอก และภายใน ร่างกายจึงกลายเป็นหมอที่ดีที่สุด
แนะนํา ผลงานวิจัย BIM100 ตามปริมาณที่ ดร.ท่านวิจัย และสรุปมาให้ สามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้ จากการทําให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่สมดุลที่ น้ำมังคุดBIM สร้างให้ร่างกายเป็นหมอให้กับตัวเองได้นั้นเอง
ผู้ป่วยมะเร็ง ไม่ว่าจะระยะใด และเป็นส่วนไหนของร่างกาย จําเป็นที่จะต้อง กําจัด หรือฆ่าเซลล์มะเร็ง และนําเซลล์มะเร็งที่ถูกฆ่าแล้วออกจากร่างกาย แล้วยังต้องทําให้เซลล์ที่เกิดขึ้นใหม่ เป็นเซลล์ดี...ซึ่งการกําจัด+นําออก+กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ของร่างกายนั้น ทําได้ทั้งสามกระบวนการด้วยการทํางานร่วมด้วยช่วยกันของ แคปซูลสีเขียว + น้ำมังคุดBIM
ความตายของเซลล์มะเร็ง
1. แก่ตาย เมื่อถึงอายุไขของมัน (ตายช้ากว่าเซลล์ปกติมาก และแบ่งตัวเร็วได้มากกว่าเซลล์ปกติ)
2. ถูกเซลล์มะเร็งด้วยกันเบียดตาย เซลล์มะเร็งเติบโตเร็วมากจนไม่มีที่อยู่ เซลล์ใหม่อาจจะเบียดเซลล์เก่าในแกนกลางของก้อนมะเร็งให้ตาย โดยแย่งอาหารและออกซิเจนจากเซลล์เก่า
3. ทําลายโดยเซลล์เม็ดเลือดขาว "ลิมโฟไซต์" การเสริมเซลล์เม็ดเลือดขาวให้แข็งแกร่งสามารถทําลายเซลล์มะเร็งให้ตายได้ สารพิษที่เกิดจากการสลายตัวของเซลล์มะเร็งที่ตายจะมีมากขึ้น สารพิษจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปเลี้ยงร่างกายทําให้อาการของผู้ป่วยมะเร็งรุ่นแรงมากขึ้น เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ผอมลง ฯลฯ (อาการดังกล่าวแก้ไขได้ด้วยการล้างพิษ)
ผลงานวิจัย BIM100 ใช้ร่วมกันกับการรักษาทางการแพทย์ได้ทุกขั้นตอน และข้อสังเกตุแบบมีนัยสําคัญก็คือ มีผู้ที่ใช้ ผลงานวิจัย BIM100 อย่างเดียวแล้วไม่ให้คีโม รังษีรักษา ก็สามารถปลอดมะเร็งได้เช่นกัน)
คุณสุเทพ แหวนทอง
ผู้เคยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากลามไปกระดูกสันหลัง
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
เริ่มจากร่างกายอ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อยครั้ง แต่กระปริดกระปรอย บางครั้งมีเลือดปนออกมา เบื่ออาหาร ปวดเมื่อย ตามข้อ ภายใน 2 เดือนน้ําหนักลดลงไป 20 ก.ก. เมื่อต้นปี 54 ไปตรวจร่างกายหลายครั้งใช้เวลาอยู่ 2 เดือน จนกระทั่งพบว่า ดัชนีบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) สูงมากอยู่ที่ 100 mg/ml (คนปกติต้องน้อยกว่า 4.0 ng/ml) จึงตัดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมาก ไปตรวจ ปรากฏว่าเป็นมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก แพทย์จึงทําการผ่าตัดมะเร็งออกไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค.54 และเริ่มเดินไม่ได้ในเย็น วันนั้น ต่อมาตรวจ MRI พบว่ามะเร็งเริ่มลามไปกระดูกสันหลัง และอาจเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ เพราะมะเร็งลามไปทําลายกระดูก สันหลังทําให้ทรุดไปทับเส้นประสาทที่หลัง หลังจากที่แผลผ่าตัดหายดีแล้ว เมื่อวันที่ 25 มี.ค.54 จึงทําการฉายแสงติดต่อกัน 10 วัน ระหว่างที่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เป็นอัมพาตครึ่งซีก ร่างกายท่อนล่างตั้งแต่เอวจนถึงปลายเท้าจะกระดิกกระเดี๋ยวตัวไม่ได้ เดินไม่ได้ เริ่มใช้ BIM ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.54 พอเดือน มี.ค.55(ประมาณ 11 เดือน) ค่า PSA อยู่ที่ 0.82 ng/ml สุขภาพโดยรวมทั้งหมดที่ขึ้นถึง 70% วันที่ 6 ส.ค.55 (ประมาณ 16 เดือน) สุขภาพแข็งแรงดี คุณภาพชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมที่เริ่มรักษาครั้งแรกเดินไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองได้ครับ เข้าห้องน้ํา ทานอาหารเองได้ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นให้เดือดร้อน ใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินระยะใกล้ได้ สามารถนั่งนานๆ ได้ ปัจจุบันเดือนเม.ย 56 ตลอด 2 ปีที่ *BIM ค่า PSA อยู่ที่ 1 กว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติมาตลอด และผลเอกซเรย์กระดูกสันหลังพบว่าสมบูรณ์ดี บิดตัวได้ตามปกติ ถ้าเดินภายในบ้านหรือระยะทางใกล้แทบไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้วครับ (น้ํามังคุด 1 ซอง, สีเขียว กลางวัน 3 แคปซูล เย็น 3 แคปซูล และก่อนนอน 3 แคปซูล)
คุณสุภัสสรา เอมเอก
ผู้เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองลามไปกระดูกต้นขา
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
เป็นมะเร็งที่ต่อมน้ําเหลืองระยะ 4 ได้รับการรักษาด้วยเคมีบําบัด 8 คอร์ส ต่อมาลุกลามไปที่กระดูกขาขวา ทําให้กระดูก ขาหัก มีรอยดําที่กระดูกกะโหลกศีรษะ มีก้อนที่ไตด้วย แต่ไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อตรวจจึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใช่เป็นก้อนมะเร็งหรือไม่ แต่ก้อนนี้หายไปหลังให้เคมีบําบัด ต่อมารักษาอาการที่ขาขวาโดยครั้งที่หนึ่งด้วยการผ่าตัดใส่เหล็กที่ขาขวา และฉายแสงตรง บริเวณที่ผ่าตัดขาเพื่อกระตุ้นให้กระดูกงอก แต่กลับไม่งอก ยังคงมีช่องว่างของกระดูกอยู่ ต่อมาครั้งที่สองจึงผ่าตัดกระดูก ขาขวาอีกครั้งเพื่อปลูกถ่ายกระดูก แต่กลับไม่ประสบความสําเร็จ นั่นก็คือกระดูกที่มาปลูกใหม่ยังไม่ติดกัน จึงมีอาการปวด ขาขวา ยิ่งลงน้ําหนักตอนเดินยิ่งปวด ร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย เดินโดยอาศัยไม้ค้ำยัน และมีความวิตกกังวลอยู่ 2 เรื่องคือ
1. ถึงแม้ว่ามีโอกาสหาย 90% แต่ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ถึง 50%
2. กําลังวางแผนที่จะผ่าตัดที่ขาซ้ําอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3
เพื่อที่จะใส่วัสดุประเภทซีเมนต์เพื่อปิดช่องว่างของกระดูก ตั้งแต่ตุลาคม 53-กุมภาพันธ์ 54 ดูแลตัวเองตามแนวการดีท็อกซ์ ด้วยอาหาร และนั่งสมาธิ จนมีเพื่อนที่เป็นมะเร็งตับที่ *BIM แล้วผลตรวจสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ มาแนะนําให้เริ่ม *BIM เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 54 พอได้ 2 สัปดาห์ สังเกตเห็นว่าผิวพรรณมีการเปลี่ยนแปลง รู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย ไม่เพลีย นอนหลับดี เมื่อครบ 3 เดือนเอกซเรย์กระดูกขาตรงที่มีช่องว่าง เริ่มมีเงาให้เห็นรางๆ แสดงว่าเริ่มมีกระดูกงอก พอครบ 6 เดือน เอกซเรย์กระดูกขา กระดูกงอกเพิ่มกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ครบ 1 ปี (15 พ.ค.55) ผลการเอกซเรย์กระดูกขาชี้ว่า กระดูกติดดีแล้ว ไม่มีช่องว่าง ซึ่งก็หมายความว่าเซลล์มะเร็งที่กระดูกถูกยับยั้งไปแล้ว กระดูกจึงสามารถสร้างเชื่อมติดกันได้ จนแพทย์ขยายเวลานัดเพื่อติดตามเรื่องกระดูกเป็นปีละ 1 ครั้ง และน้ําหนักเพิ่มขึ้น 3 ก.ก. (จาก 51 เป็น 54 ก.ก.) อาการปวดขาลดลง เดินได้เกือบ เหมือนเดิม ไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว แม้ว่าเดินกะเผลกอยู่บ้าง มีปวดขาบ้างคงเกิดจากโลหะที่อยู่ข้างในอาจเสียดสี หรือทับเนื้ออยู่บ้าง แต่ก็พอใจแล้วค่ะ ตลอดเวลาที่ *BIM ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด รู้สึกร่างกายแข็งแรงขึ้น สดชื่น ผิวพรรณดีขึ้นมีน้ํามีนวล ดูไม่เหมือนคนป่วยสักเท่าไหร่ ไม่มีความ วิตกกังวลว่าจะกลับมาเป็นซ้ํา เพราะเชื่อมั่น “BIM ภูมิคุ้มกันที่สมดุล ถ้านับว่าตอนที่เริ่มรักษาเป็นศูนย์ ในวันนี้ก็ถือว่าดีขึ้นเป็น 98% ค่ะ (น้ํามังคุด 1 ซอง, สีเหลือง กลางวัน 2 แคปซูล เย็น 2 แคปซูล และก่อนนอน 2 แคปซูล)
คุณอ้อ มะย่น
ผู้เคยเป็นมะเร็งเต้านมมานานกว่า 10 ปี (ปี 2550)
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100