 
BIM100 กับผู้มีปัญหาช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่ คุณพรรณี ปิยะรัตน์
และ พบความผิดปกติของการตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก
เดือนเม.ย.ปี 53 ตรวจสุขภาพประจําปี และอัลตราซาวด์ พบช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่ข้างขวา 2 จุด ไม่เคยมีประวัติปวดท้องประจําเดือน มาก่อน และหมดประจําเดือนมาแล้ว 3 ปี มีคําแนะนําว่าให้ตรวจซ้ําอีกใน ปีถัดไป เพราะจุดยังไม่ใหญ่มาก ต่อมาวันที่ 18 มิ.ย. 54 ได้ตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ผลออกมาว่าพบเซลล์ที่มีความผิดปกติ เกิดขึ้น ยิ่งทําให้กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก กลัวต้องตัดมดลูกทิ้ง พอดี มีเพื่อนมาแนะนําให้ *BIM ตั้งแต่กลางปี 54 ต่อมาวันที่ 23 พ.ค. 55 ผลตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องกลับไม่พบช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่ และ วันที่ 24 พ.ย. 55 ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกซ้ําอีกครั้ง ผลคือไม่พบ ความผิดปกติเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกแล้วเช่นกันและล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 56 ผลตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องยังคงยืนยันไม่พบช็อกโกแลต ซีสต์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 และไม่พบอาการผิดปกติใดๆ ในมดลูก รู้สึกดีใจ มากหมดห่วงเสียที่ และ 2 ปีที่ *BIM มา อาการปวดมวนในท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อที่เคยเป็นบ่อยๆ ก็ไม่มีไม่เป็นหวัด ไม่เจ็บคอค่ะ (สีเขียว เช้า 2 แคปซูล กลางวัน 2 แคปซูล และก่อนนอน 2 แคปซูล)

ช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่: อาการ, สาเหตุ และวิธีการรักษา
ช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่ หรือที่เรียกว่า “Endometrioma” เป็นหนึ่งในภาวะที่เกิดจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) ซึ่งมีผลต่อผู้หญิงหลายคนทั่วโลก ชื่อ “ช็อกโกแลตซีสต์” มาจากลักษณะของซีสต์ที่มีสีคล้ายช็อกโกแลตเนื่องจากการสะสมของเลือดเก่าในซีสต์นั่นเอง เรามาดูกันว่าอาการ, สาเหตุ และวิธีการรักษาช็อกโกแลตซีสต์นี้เป็นอย่างไร
ช็อกโกแลตซีสต์คืออะไร?
ช็อกโกแลตซีสต์คือถุงน้ำที่เกิดขึ้นในรังไข่ของผู้หญิง มีเลือดสะสมอยู่ภายในเนื่องจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เมื่อเยื่อบุโพรงมดลูกที่อยู่ภายนอกรังไข่มีการลอกออกตามรอบเดือน จะเกิดการสะสมเลือดในซีสต์ เมื่อเวลาผ่านไปเลือดจะกลายเป็นสีน้ำตาลคล้ายช็อกโกแลต จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกนี้
อาการของช็อกโกแลตซีสต์
ผู้ที่มีช็อกโกแลตซีสต์อาจมีอาการดังนี้:
 1. ปวดท้องน้อยรุนแรง โดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน
 2. ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
 3. ปวดขณะถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ โดยเฉพาะช่วงที่มีประจำเดือน
 4. มีปัญหาการตั้งครรภ์ เนื่องจากการมีซีสต์อาจส่งผลกระทบต่อการตกไข่
 5. รู้สึกเจ็บปวดทั่วไปในช่องท้อง อาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้
สาเหตุของช็อกโกแลตซีสต์
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดช็อกโกแลตซีสต์คือภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่มีการเชื่อมโยงกับปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน และระบบภูมิคุ้มกันที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยช็อกโกแลตซีสต์มักทำโดย:
 1. การตรวจภายใน
 2. การทำอัลตราซาวด์ เพื่อดูขนาดและลักษณะของซีสต์
 3. การตรวจ MRI อาจใช้ในบางกรณีที่ต้องการเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น
 4. การผ่าตัดส่องกล้อง (Laparoscopy) เพื่อดูและเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อมาตรวจ
วิธีการรักษาช็อกโกแลตซีสต์
การรักษาช็อกโกแลตซีสต์ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความต้องการของผู้ป่วย การรักษามีดังนี้:
 1. การใช้ยา สำหรับบรรเทาอาการปวดและปรับสมดุลฮอร์โมน
 2. การผ่าตัด เช่น การส่องกล้องเพื่อกำจัดซีสต์ โดยเฉพาะในกรณีที่ซีสต์มีขนาดใหญ่และรบกวนการทำงานของรังไข่
 3. การใช้ยาฮอร์โมน ช่วยลดการเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ผิดที่
 4. การรักษาผู้ที่ต้องการมีบุตร อาจจำเป็นต้องใช้วิธีทางการแพทย์เพื่อช่วยในการตั้งครรภ์ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
การป้องกันและดูแลตนเอง
 • การรับประทานอาหารที่มีคุณค่า อาจช่วยลดการอักเสบ
 • ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
 • การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อการตรวจพบช็อกโกแลตซีสต์หรือโรคอื่นๆ แต่เนิ่นๆ
ช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่เป็นภาวะที่พบได้ในผู้หญิงและอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต หากสงสัยว่าตนเองมีอาการที่สอดคล้องกับช็อกโกแลตซีสต์ ควรเข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม การดูแลตัวเองทั้งด้านอาหารและการออกกำลังกาย รวมถึงการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น
 bim100product
			bim100product
		