BIM100 กับภาวะ HIV หมดฤทธิ์ หรือ functional cure
ผลงานวิจัย BIM100 อธิบาย 3 ปัจจัยสำคัญ
1. ต้องลดหรือควบคุมการทานน้ำตาล
การทานน้ำตาลมากเกินไปนั้น จะไปลดประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับ เชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส น้ำตาลสามารถกดการทำงานของเม็ดเลือดขาวได้ (Sugar suppress lymphocyte) พูดง่าย ๆ ก็คือ กดการทำงานของภูมิต้านทานนั่นเอง
จากหนังสือของนายแพทย์ James Braly ปี 1992
ชื่อ DR.BRALY’S FOOD ALLERTY & NUTRITION – REVOLUTION หน้า 242 เรื่อง “How to eat”
มีข้อความแปลเป็นไทยว่า “ในบางคนน้ำตาลกดการทำงานของเม็ดเลือด โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นตัว หลักของภูมิต้านทาน (เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่สำคัญคือคอยทำลายเชื้อโรค และปกป้อง ร่างกายจากสิ่ง แปลกปลอม) ยกตัวอย่าง ง่ายๆ ถ้าคุณกินน้ำอัดลม 1 กระป๋อง หรือกาแฟใส่น้ำตาล 1 ถ้วย แล้วตามด้วย ขนมหวานอีก 1 ชิ้น เม็ดเลือดขาวของคุณจะทำงานลดลง 75 เปอร์เซนต์ และจะเป็นอย่างนี้อยู่นาน 6-8 ชั่วโมง กว่าจะกลับมาทำงานตามปกติ”
2. ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ระบบภูมิคุ้มกันจะถูกกระตุ้นจากการออกกำลังกาย เมื่อออกกำลังกาย หัวใจของเราก็จะแข็งแรง ส่งผลให้การหมุนเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น ปอดทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปตามส่วนต่างๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายก็เช่นกัน ระบบนี้มีหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ที่ดาหน้าเข้ามาทุกวัน การออกกำลังกายจะเพิ่มการหมุนเวียนของเลือดโดยรวม ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีความสามารถในการเก็บกินสิ่งแปลกปลอมมากขึ้น
3. ควรนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอและนอนในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงเวลา 22.00 – 02.00 น.เป็นช่วงที่ร่างกายหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ กระตุ้นการสร้างมวลกระดูก ช่วยซ่อมแซมร่างกาย กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน ถ้าไม่สามารถนอนหลับสนิทในช่วงเวลาดังกล่าว ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ร่างกายจะแก่ไว ผิวพรรณมีปัญหา อารมณ์ไม่คงที่ ฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ในการซ่อมแซมร่างกายทำงานไม่ได้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดลง ความสามารถในการต้านทานเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสด้อยลง รวมทั้งเซลล์พิฆาตของร่างกาย (Natural Killer Cell Activity) จะลดลง
_________
การใช้เฉพาะยาต้านไวรัส
ไวรัสก็คงจะไม่หมดไปง่ายง่าย เพราะยาต้านไวรัสไม่ได้ฆ่า คงจะต้องรอให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมากำจัดไวรัสให้หมด
ผลงานวิจัย bim100 สร้างร่างกายให้มีภูมิคุ้มกันที่สมดุล กระตุ้นเซลล์ T พิฆาตจะไปย่อยเซลล์ติดเชื้อพร้อมกับไวรัสให้สลายหมดได้เร็วขึ้น
ไวรัสจะฝังอยู่ในเซลล์จะกำจัดให้หมดต้องสลายเซลล์ติดเชื้อนั้นเท่านั้น
. . . . . . . . . . .
นวัตกรรม APCO หรือ A.I. (APCO Immunotherapy) / ภูมิคุ้มกันบำบัด APCO ไม่ใช่ชื่อเครื่องหมายการค้า แต่เป็นเป็นชื่อสูตรงานวิจัยที่คณะนักวิจัย Operation BIM ได้ตั้งขึ้น ซึ่งพัฒนามาจากสูตร BIM หรือ BIM100 (Balancing Immunity) ที่พัฒนาต่อเนื่องจากงานวิจัยสารสกัดจากมังคุดที่วิจัยตั้งแต่ปี 2520 จนถึงปัจจุบัน