ผลงานวิจัย BIM100 ให้รายละเอียดว่าด้วยเรื่ององค์การอนามัยโลก (WHO) และผู้เชี่ยวชาญด้าน HIV เอดส์ สรุปตรงกันว่า การเพิ่มขึ้นของ CD4 หรือเม็ดเลือดขาว พบว่าโรคเอดส์ คือ อาการของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งเกิดมาจากเชื้อไวรัส HIV จนทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่ำ และไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
คณะนักวิจัย Operation BIM อธิบายว่าเมื่อเชื้อ HIV เข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวถูกทำลายมากขึ้น จึงทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่ำลง จนในที่สุด ร่างกายไม่มีสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ ร่างกายของผู้ป่วยจะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เป็นโรคติดเชื้ออื่นๆ ตามมา เช่น วัณโรค ปอดปวม เป็นหวัด ร่างกายติเชื้อ มีอาการอักเสบ ติดเชื้อรา เชื้อราในช่องปาก ลิ้นเป็นฝ้า ท้องร่วงเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัวโดยส่วนมากผู้ป่วยโรคเอดส์มักเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนต่างๆ นั้นเอง
งานวิจัย BIM100 พบว่าเมื่อเชื้อ HIV เข้าสู่ร่างกาย จะไป ฝังตัวในเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 + (Th-Cell) เพื่อแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และทำลาย CD4+ (Th-Cell) จนมี จำนวนลดลงต่ำกว่า 350 เซลล์/ลบ.มม. ขณะที่ในคนปกติจะมี CD4+ 600-1,000 เซลล์/เลือด 1 ลบ.มม. คณะนักวิจัย ถือเป็นระดับภูมิคุ้มกันที่ต่ำมากในร่างกาย และผู้ติดเชื้อนี้ยังมีค่า Th1, Th2. Th17 และ Treg ในปริมาณที่ต่ำเช่นกัน โดยมี TH17 ต่ำที่สุด ส่งผลให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อวัณโรค และเป็นมะเร็งได้ง่ายกว่าคนปกติ
งานวิจัย BIM100 สามารถกระตุ้นการ ทำงานของ Th1 เพิ่มขึ้น 2 เท่า กระตุ้น Th17 เพิ่มขึ้น 5 เท่า และ Treg เพิ่มขึ้น 2 เท่า ล่าสุดยังพบว่า IL-9 ที่เพิ่มมาก ขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์สามารถเพิ่มความสามารถในการจัดการกับสิ่งแปลกปลอมโดยไม่มีผลข้างเคียง และข้อมูล เบื้องต้นของการทดสอบในผู้ที่ติดเชื้อเอดส์พบว่า ภายใน 1 เดือน ไม่พบการติดเชื้อราในช่องปาก และภายใน 2 เดือน ผู้ที่มี CD4 + ค่ากว่า 100 เซลล์/ลบ.มม. เพิ่มเป็น 300 เซลล์/ลบ.มม.
ผลงานวิจัย BIM100 สร้างร่างกายให้มีภูมิคุ้มกันที่สมดุล กระตุ้นเซลล์T พิฆาตจะไปย่อยเซลล์ติดเชื้อพร้อมกับไวรัสให้สลายหมดได้เร็วขึ้น
ไวรัสจะฝังอยู่ในเซลล์จะกำจัดให้หมดต้องสลายเซลล์ติดเชื้อนั้นเท่านั้น